BUNRI Inc.

ลดต้นทุนผลิตทันที! วิธีเลือกเครื่องแยกเศษโลหะที่คืนทุนเร็วที่สุดในสายงานอุตสาหกรรม

เครื่องแยกเศษโลหะช่วยจัดการน้ำมันและตะกอนจากกระบวนการตัดเฉือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลดต้นทุนการผลิตได้จริงภายในปีแรก ค้นหาวิธีเลือกเครื่องให้เหมาะกับสายงานของคุณได้ในบทความนี้ 1. ทำไมการแยกเศษโลหะจึงเป็นเรื่องสำคัญในโรงงานผลิต ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะสายงานตัดเฉือนหรือแปรรูปโลหะ จะเกิดของเสียประเภทเศษโลหะและตะกอนจากน้ำมันหล่อเย็นจำนวนมาก ถ้าไม่จัดการให้ดี จะนำไปสู่ปัญหาดังนี้: - น้ำมันหล่อเย็นเสื่อมคุณภาพและต้องเปลี่ยนบ่อย - เครื่องจักรมีปัญหาจากตะกอนสะสม เช่น ความแม่นยำลดลงหรือการอุดตัน - เพิ่มภาระในการบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน - มีต้นทุนในการจัดการของเสียและสิ่งแวดล้อมสูงขึ้น การใช้ เครื่องแยกเศษโลหะ ที่เหมาะสมจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วย ลดต้นทุนแบบยั่งยืน และยังสอดคล้องกับแนวทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน 2. คุณสมบัติของเครื่องแยกเศษโลหะที่สามารถคืนทุนภายใน 1 ปี หากต้องการให้การลงทุนคุ้มค่าภายในเวลาอันสั้น จำเป็นต้องพิจารณาเครื่องแยกเศษโลหะที่มีคุณสมบัติเหล่านี้: - รองรับระบบอัตโนมัติ ลดการใช้แรงงานในการเก็บกวาดและแยกตะกอน เพิ่มความต่อเนื่องในสายการผลิต - มีประสิทธิภาพในการแยกสูง แยกตะกอนละเอียดในระดับไมครอนได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้น้ำมันหล่อเย็นนำกลับมาใช้ได้อีก - ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย เหมาะกับโรงงานที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ - ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ โครงสร้างไม่ซับซ้อน ทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องหยุดเครื่องบ่อย - มีข้อมูลรองรับ ROI (ผลตอบแทนการลงทุน) มีเคสศึกษาและข้อมูลประเมินการคืนทุนที่ชัดเจนก่อนตัดสินใจ เมื่อเลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ จะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือน เช่น น้ำมันหล่อเย็น แผ่นกรอง ค่าซ่อมบำรุง ฯลฯ ซึ่งจะสะสมจนคืนทุนได้ภายในปีแรก 3. ผลการลดต้นทุนที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้งานเครื่องแยกเศษโลหะ จากการใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม พบว่าการนำเครื่องแยกเศษโลหะของ Bunri มาใช้ ช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยสามารถสรุปผลประหยัดที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณีได้ดังนี้: - กรณีใช้แผ่นกรองกระดาษ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ ¥963,200 ต่อปี ลดภาระในการเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองและของเสียที่ต้องจัดการ - กรณีใช้เครื่องรุ่น Autonics ลดต้นทุนได้ประมาณ ¥1,103,400 ต่อปี เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบอัตโนมัติ ลดการใช้แรงงานและของเสีย - กรณีใช้เครื่องรุ่น Genex ประหยัดได้ประมาณ ¥648,000 ต่อปี เหมาะสำหรับสายการผลิตขนาดกลางถึงเล็ก - กรณีใช้งานกับศูนย์เครื่องจักร (Machining Center) ลดค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าบำรุงรักษาได้ประมาณ ¥559,520 ต่อปี - กรณีใช้ในระบบ Gantry Loader ลดต้นทุนได้สูงถึง ¥2,578,120 ต่อปี คุ้มค่ามากสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ - กรณีใช้กับเครื่องคัดลอก (Copying Machines) ลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ ¥878,400 ต่อปี ลดเวลาสูญเปล่าจากการทำงานซ้ำซ้อน ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า การคืนทุนภายใน 1 ปี ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง หากเลือกใช้เครื่องที่เหมาะสมกับประเภทงานและปริมาณการผลิตของโรงงาน 4. ได้ทั้งลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประโยชน์จากเครื่องแยกเศษโลหะไม่ได้จำกัดแค่การลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังช่วยตอบโจทย์เรื่อง “ความยั่งยืน” ดังนี้: - ลดปริมาณน้ำมันหล่อเย็นที่ต้องเปลี่ยนและทิ้ง - ลดจำนวนขยะอุตสาหกรรม โดยเฉพาะของเสียอันตราย - ลดการปล่อย CO₂ จากกระบวนการกำจัดของเสีย - ช่วยให้โรงงานมีภาพลักษณ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือในตลาด 5. ทำไมจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์จาก Bunri Bunri เป็นผู้ผลิตเครื่องแยกเศษโลหะที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการในญี่ปุ่นและต่างประเทศมายาวนาน ด้วยคุณสมบัติดังนี้: - มีเทคโนโลยีการแยกตะกอนขั้นสูง สามารถแยกได้ละเอียดและแม่นยำ - ออกแบบให้ประหยัดพื้นที่และดูแลรักษาง่าย - มีเครื่องให้เลือกหลากหลายรุ่นตามลักษณะงาน - มีข้อมูลผลตอบแทนจากการลงทุนที่ตรวจสอบได้ - มีบริการให้คำปรึกษาก่อนติดตั้งเพื่อให้เหมาะกับแต่ละสายการผลิต หากคุณกำลังมองหาโซลูชันที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร และสร้างความยั่งยืนให้กับโรงงานในระยะยาว เครื่องแยกเศษโลหะจาก Bunri คือทางเลือกที่น่าพิจารณาอย่างยิ่ง รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดาวน์โหลด PDF หรือสอบถามเราได้เลยครับ

ลดคาร์บอนในโรงงาน 75 ตัน ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้งานจริงแล้ว

การลดคาร์บอนในโรงงานไม่ใช่แค่เป้าหมายเชิงนโยบายอีกต่อไป เทคโนโลยีกรองคูลแลนท์จาก Bunri ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถลด CO2 ได้มากถึง 75 ตันใน 10 ปี พร้อมลดต้นทุนการดำเนินงานไปพร้อมกัน 1. ความสำคัญของการลดคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม ในยุคที่ความยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจทางธุรกิจ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะ CO2 กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับภาคอุตสาหกรรม โรงงานผลิตที่ยังใช้ระบบกรองของเหลวหรือการจัดการคูลแลนท์แบบเดิม อาจเป็นแหล่งการปล่อย CO2 จำนวนมากโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นจากการเปลี่ยนถ่ายของเหลวบ่อยครั้ง และใช้พลังงานมากกว่าที่จำเป็น 2. การปล่อย CO2 จากระบบกรองและคูลแลนท์: ปัญหาที่มองไม่เห็น ในโรงงานผลิตทั่วไป ระบบกรองคูลแลนท์ที่ไม่มีประสิทธิภาพสามารถส่งผลต่อการใช้พลังงานโดยรวม เช่น การทำงานของปั๊มน้ำที่ต้องใช้กำลังไฟมากขึ้น, การทำความสะอาดเครื่องจักรบ่อยครั้ง, หรือแม้แต่คุณภาพของชิ้นงานที่ต่ำลง การเปลี่ยนของเหลวบ่อยครั้งยังทำให้เกิดการขนส่งและกำจัดของเสียซึ่งเพิ่มปริมาณ CO2 โดยทางอ้อม ผลที่ตามมาคือการสูญเสียทั้งทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม 3. เทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลด CO2 ได้จริง ผลิตภัณฑ์จากบริษัท Bunri ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการกรองและแยกของเหลวในงานตัดเฉือนโลหะโดยเฉพาะ โดยเทคโนโลยีที่เด่นและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลด CO2 ได้แก่: - RTG (ระบบคูลแลนท์สำหรับเครื่องเจียรความแม่นยำ) ลด CO2 ได้สูงถึง 75,610 กิโลกรัมภายใน 10 ปี โดยใช้พลังงานน้อยลงและยืดอายุการใช้งานของคูลแลนท์อย่างมีนัยสำคัญ - ระบบกรอง SB Filter YAO สำหรับการเจียรอัลตราแม่นยำ ลดการเปลี่ยนของเหลวบ่อยครั้ง และลด CO2 ได้ 33,180 กิโลกรัมในช่วงเวลาเดียวกัน - ไซโคลนฟิลเตอร์ Apollo S (APS) แยกตะกอนและสิ่งปนเปื้อนออกจากของเหลวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสะสมของตะกอนในระบบ ลดภาระการทำงานของเครื่องจักร และลด CO2 ได้อีกกว่า 50,050 กิโลกรัมใน 10 ปี 4. ผลประโยชน์ที่เกินกว่าแค่ตัวเลข CO2 เมื่อพิจารณาในระยะยาว การใช้ระบบกรองเหล่านี้ไม่เพียงลดปริมาณ CO2 ได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังลดต้นทุนรวมได้อย่างเห็นผล: - ลดค่าไฟฟ้าโดยตรงจากการใช้ปั๊มที่มีประสิทธิภาพสูง - ลดค่าดูแลระบบกรองและทำความสะอาดเครื่องจักร - ยืดอายุการใช้งานของของเหลวคูลแลนท์และลดค่าจัดการของเสีย - เพิ่มคุณภาพการผลิต และลดของเสียจากชิ้นงานที่ไม่ได้มาตรฐาน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งเสริมให้โรงงานสามารถบรรลุเป้าหมาย "Net Zero" ได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนขนาดใหญ่ หรือเปลี่ยนแปลงสายการผลิตทั้งหมด 5. ทำไมโรงงานยุคใหม่ควรเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีนี้ ในโลกที่การลดคาร์บอนกลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) และเป็นเงื่อนไขการลงทุนของหลายองค์กร การมีเครื่องจักรหรือระบบที่สนับสนุนการลด CO2 เป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ เทคโนโลยีจาก Bunri ไม่เพียงได้รับการพิสูจน์ในภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังถูกนำไปใช้ในหลากหลายประเทศ และให้ผลลัพธ์จริงในการลดการปล่อย CO2 รวมถึงการสร้างผลตอบแทนจากการลดต้นทุนในระยะยาวอย่างยั่งยืน 🔷 ทำไมจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์จาก Bunri ผลิตภัณฑ์ของ Bunri เช่น RTG, SB Filter YAO, และ Apollo S (APS) ถูกออกแบบมาโดยเน้นประสิทธิภาพการแยกของเสีย การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการยืดอายุการใช้งานของของเหลวในระบบ โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการเจียรความแม่นยำสูง หรือกระบวนการผลิตทั่วไปในโรงงาน การใช้งานจริงในอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถลดคาร์บอนสะสมได้สูงถึง 75,610 กิโลกรัมใน 10 ปี ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 6,000 ต้นในช่วงเวลาเดียวกัน จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับโรงงานที่ต้องการความยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ต้องรอเทคโนโลยีในอนาคต เพราะระบบเหล่านี้ พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก PDF ที่แนบ หรือสอบถามเพิ่มเติมกับทีมงานของเราได้เลยครับ