SERVICE
สินค้าและบริการการผลิต
สินค้าและบริการการผลิต
25รายการ
กรองตามหมวดหมู่
Desiccant Rotor คืออะไร และแตกต่างจากเครื่องลดความชื้นแบบคอมเพรสเซอร์อย่างไร
🌟 Key Takeaways • Desiccant Rotor ลดความชื้นด้วยการดูดซับไอน้ำ ไม่ใช่การควบแน่น • ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำและช่วงอากาศชื้น เช่น ฤดูฝน • ไม่ใช้สารทำความเย็น เหมาะกับระบบ HVAC และงานอุตสาหกรรมระยะยาว ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー 🔹 Desiccant Rotor คืออะไร Desiccant Rotor คืออุปกรณ์ลดและควบคุมความชื้นที่ใช้หลักการ “ดูดซับไอน้ำ” โดยตรง วัสดุที่ใช้ดูดซับมักเป็นซีโอไลต์ (Zeolite) หรือซิลิกาเจล (Silica Gel) ซึ่งถูกเคลือบบนโครงสร้างแบบ corrugated honeycomb และจัดเรียงเป็นวงล้อหมุน เมื่ออากาศชื้นไหลผ่านโซนดูดซับ ไอน้ำจะถูกดูดซับเข้าไปในโครงสร้างรูพรุนของวัสดุ ทำให้อากาศแห้งลงทันที วงล้อจะหมุนต่อไปยังโซน regeneration ซึ่งใช้ความร้อนในการคายความชื้นออก ทำให้สามารถนำ rotor กลับมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 🔹 เครื่องลดความชื้นแบบคอมเพรสเซอร์ทำงานอย่างไร เครื่องลดความชื้นแบบทั่วไปใช้หลักการควบแน่น (Condensation) โดย • ลดอุณหภูมิอากาศให้ต่ำกว่า dew point • ทำให้ไอน้ำควบแน่นเป็นหยดน้ำ • ใช้คอมเพรสเซอร์และสารทำความเย็น ระบบนี้ทำงานได้ดีในอุณหภูมิห้องทั่วไป แต่เมื่ออุณหภูมิลดลงหรือค่า dew point ต่ำ ประสิทธิภาพจะลดลงอย่างชัดเจน เครื่องต้องทำงานหนัก ใช้พลังงานสูง แต่ยังไม่สามารถลดความชื้นได้ตามที่ต้องการ 🔹 ความแตกต่างระหว่าง Desiccant Rotor กับระบบคอมเพรสเซอร์ ความแตกต่างหลักอยู่ที่ “กลไกการลดความชื้น” Desiccant Rotor • ลดความชื้นด้วยการดูดซับไอน้ำโดยตรง • ไม่ขึ้นกับอุณหภูมิหรือการควบแน่น • ควบคุมค่า RH ได้สม่ำเสมอและแม่นยำ ระบบคอมเพรสเซอร์ • ลดความชื้นผ่านการลดอุณหภูมิ • ประสิทธิภาพลดลงทันทีเมื่ออุณหภูมิต่ำ • ใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม ในเชิงระบบ Desiccant Rotor ไม่ใช้สารทำความเย็น ลดความซับซ้อน และเหมาะกับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว 🔹 ควรเลือกใช้ Desiccant Rotor เมื่อใด Desiccant Rotor เหมาะสำหรับกรณีต่อไปนี้ • ต้องการควบคุมความชื้นต่ำกว่า 50% RH อย่างต่อเนื่อง • ใช้งานในอุณหภูมิต่ำ ห้องเย็น หรือช่วงฤดูฝน • ระบบ HVAC หรือโรงงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง • ต้องการลดต้นทุนการเดินระบบ (OPEX) ในระยะยาว • ต้องการระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 📘 Summary Desiccant Rotor ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องลดความชื้นอีกประเภทหนึ่ง แต่เป็นการเปลี่ยนแนวคิดจากการควบแน่นมาเป็นการดูดซับ ช่วยแก้ข้อจำกัดของระบบคอมเพรสเซอร์ได้โดยตรง การเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะกับสภาพการใช้งานจริงจึงเป็นหัวใจของการควบคุมความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ 📥 CTA หากต้องการต่อยอดความเข้าใจ บริษัท NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. แนะนำให้อ่านบทความ Advance ที่เกี่ยวข้องด้านล่างเพื่อเชื่อมโยงสู่การใช้งานจริง 🔗 Cluster Internal Link • Core Content: https://prime.nc-net.com/105714/th/product_others/detail_goods/25302 • Advance Knowledge: https://prime.nc-net.com/105714/th/product_others/detail_goods/27657 ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー ❓ FAQ • Q: Desiccant Rotor ใช้พลังงานมากกว่าหรือไม่ A: หากออกแบบระบบถูกต้อง สามารถใช้ความร้อนเหลือทิ้งและลดการสูญเสียจาก overcool/reheat ทำให้พลังงานรวมต่ำกว่าในหลายกรณี • Q: ใช้แทนเครื่องลดความชื้นแบบเดิมได้หรือไม่ A: ได้ โดยเฉพาะงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่ที่ระบบคอมเพรสเซอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー 📚 Glossary (Key Terms) • Desiccant Rotor: วงล้อดูดซับความชื้นที่ใช้วัสดุซีโอไลต์หรือซิลิกาเจล • Regeneration: กระบวนการใช้ความร้อนคายความชื้นออกจากวัสดุดูดซับ • Dew Point: อุณหภูมิที่ไอน้ำเริ่มควบแน่นเป็นหยดน้ำ 📖 Reference ข้อมูลจากบทความต้นฉบับที่ผู้ใช้จัดเตรียม 🔒 Trust เนื้อหานี้ผ่านการตรวจสอบโดย Sales & Marketing Department ของบริษัท NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลเชิงวิชาการ #DesiccantRotor #เครื่องลดความชื้น #ควบคุมความชื้น #ระบบHVAC #งานอุตสาหกรรม #ลดRH #Dehumidifier #Zeolite #SilicaGel 📆 Updated: 2025-12-12
ปัญหาควบคุมความชื้นในโรงงาน | เพิ่มเครื่องแล้วไม่ช่วย แก้ให้ตรงจุดต้องดูที่อะไร
🌟 Key Takeaways • ปัญหา RH ไม่ลด ทั้งที่เครื่องทำงานเต็มกำลัง มักเกิดจากข้อจำกัดของ “กลไกลดความชื้น” ไม่ใช่ขนาดเครื่อง • ระบบคอมเพรสเซอร์มีข้อจำกัดชัดเจนในอุณหภูมิต่ำและสภาวะที่ Dew Point ต่ำ • Desiccant Rotor แก้ปัญหาที่ต้นเหตุของกระบวนการลดความชื้น ด้วยการดูดซับไอน้ำโดยตรง ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー การควบคุมความชื้นในโรงงานและอาคารอุตสาหกรรมมักเผชิญปัญหาซ้ำ ๆ คือ ค่า RH ยังสูงเกินเป้าหมาย แม้เครื่องลดความชื้นจะทำงานตลอดเวลาและใช้พลังงานสูง ผู้ใช้งานจำนวนมากเลือกแก้ไขด้วยการเพิ่มขนาดเครื่องหรือเพิ่มจำนวนยูนิต แต่ผลลัพธ์กลับไม่เปลี่ยนแปลงอย่างที่คาดหวัง บทความนี้จะอธิบายว่า เหตุใดปัญหานี้จึงเกิดขึ้นซ้ำ และเพราะเหตุใด Desiccant Rotor จึงเป็นแนวทางแก้ที่ตรงจุดมากกว่า 🔹 Pain Point: เครื่องทำงานเต็มกำลัง แต่ RH ไม่ลด สถานการณ์ที่พบได้จริงในหน้างาน ได้แก่ • ค่า RH ยังคงมากกว่า 60% แม้เปิดเครื่อง 24 ชั่วโมง • ค่าไฟเพิ่มขึ้น แต่คุณภาพอากาศไม่ดีขึ้น • เกิดปัญหา condensation เชื้อรา กลิ่นอับ หรือคุณภาพสินค้าลดลง ปัญหาเหล่านี้มักเกิดในพื้นที่ เช่น ห้องเย็น โรงงานที่ควบคุมอุณหภูมิต่ำ หรือช่วงฤดูฝนและพื้นที่ที่มีความชื้นสูง 🔹 Root Cause: ข้อจำกัดเชิงฟิสิกส์ของระบบคอมเพรสเซอร์ เครื่องลดความชื้นแบบทั่วไปใช้หลักการควบแน่น (Condensation) ซึ่งต้องอาศัยเงื่อนไขสำคัญ ได้แก่ • อุณหภูมิอากาศต้องสูงพอ • ค่า Dew Point ต้องอยู่ในช่วงที่คอยล์สามารถทำให้ไอน้ำควบแน่นได้ เมื่ออุณหภูมิห้องลดลง ค่า Dew Point จะลดลงตาม ทำให้การควบแน่นเกิดได้ยาก เครื่องยังคงทำงาน แต่ “กระบวนการลดความชื้นไม่เกิดอย่างมีประสิทธิภาพ” ส่งผลให้ระบบเข้าสู่ภาวะทำงานหนักแต่ไม่เกิดผล (Inefficient Operation) การเพิ่มขนาดหรือจำนวนเครื่องจึงไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ 🔹 ผลกระทบเชิงระบบ (System Impact) เมื่อระบบทำงานนอกช่วงที่เหมาะสม จะเกิดผลกระทบต่อเนื่อง ได้แก่ • พลังงานสูญเสียจากการ overcool และ reheat • อายุการใช้งานคอมเพรสเซอร์สั้นลง • ค่า OPEX เพิ่มขึ้นในระยะยาว • ค่า RH แกว่ง ส่งผลต่อความเสถียรของกระบวนการผลิต 🔹 แนวทางแก้: เปลี่ยนกลไกลดความชื้นด้วย Desiccant Rotor Desiccant Rotor เปลี่ยนแนวคิดจากการควบแน่นมาเป็นการดูดซับความชื้น (Adsorption) โดย • ใช้วัสดุอย่าง Zeolite ดูดซับไอน้ำโดยตรง • ไม่พึ่งพา Dew Point • ทำงานได้ดีแม้ในอุณหภูมิต่ำ โครงสร้างแบบ honeycomb rotor ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างอากาศกับวัสดุดูดซับ ลด pressure loss และช่วยให้ควบคุมค่า RH ได้อย่างเสถียร 🔹 ผลลัพธ์เมื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เมื่อเปลี่ยนมาใช้ Desiccant Rotor จะได้ผลลัพธ์เชิงระบบ ได้แก่ • ค่า RH ลดลงถึงเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ • ไม่จำเป็นต้อง overdesign ระบบ • ลดการใช้พลังงานรวมของระบบ HVAC • ระบบทำงานนิ่ง คาดการณ์และควบคุมได้ง่าย ในหลายกรณี ยังสามารถใช้แหล่งความร้อนเหลือทิ้งสำหรับกระบวนการ regeneration ได้ ทำให้ประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมดีขึ้น 🔹 Trade-off และเงื่อนไขที่ควรรู้ แม้ Desiccant Rotor จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การออกแบบระบบต้องคำนึงถึง • แหล่งความร้อนสำหรับ regeneration • การเลือก cell type และความหนาให้เหมาะกับ airflow • การบูรณาการเข้ากับระบบเดิม การออกแบบที่เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญของผลลัพธ์ในระยะยาว 📘 Summary ปัญหา RH ไม่ลดไม่ใช่เรื่องของกำลังเครื่องเสมอไป แต่เป็นข้อจำกัดของกลไกการลดความชื้น การเลือกใช้ Desiccant Rotor ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ทำให้ระบบมีเสถียรภาพ ประหยัดพลังงาน และเหมาะกับการใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม 📥 CTA สำหรับการประยุกต์ใช้ในงานจริง บริษัท NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. แนะนำให้ศึกษาหัวข้อ Core และ Basic Knowledge ที่เกี่ยวข้องด้านล่าง เพื่อเชื่อมโยงสู่การออกแบบระบบที่เหมาะสม 🔗 Cluster Internal Link • Core Content: https://prime.nc-net.com/105714/th/product_others/detail_goods/25302 • Basic Knowledge: https://prime.nc-net.com/105714/th/product_others/detail_goods/27656 ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー ❓ FAQ • Q: การเพิ่มเครื่องอีกตัวช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่ A: หากยังใช้กลไกเดิมในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การเพิ่มเครื่องจะเพิ่มค่าไฟ แต่ไม่แก้ปัญหา RH • Q: Desiccant Rotor เหมาะกับงานแบบใดที่สุด A: งานที่ต้องการควบคุม RH ต่ำ เสถียร และทำงานในอุณหภูมิต่ำหรือความชื้นสูง ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー 📚 Glossary (Key Terms) • Desiccant Rotor: วงล้อดูดซับความชื้นที่ใช้วัสดุอย่าง Zeolite • Condensation: กระบวนการควบแน่นของไอน้ำเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า Dew Point • Regeneration: การใช้ความร้อนคายความชื้นออกจากวัสดุดูดซับ 📖 Reference ข้อมูลจากบทความต้นฉบับที่ผู้ใช้จัดเตรียม 🔒 Trust เนื้อหานี้ผ่านการตรวจสอบโดย Sales & Marketing Department ของบริษัท NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลเชิงวิชาการ #DesiccantRotor #ลดความชื้นไม่ลง #ควบคุมความชื้น #ระบบHVAC #โรงงานอุตสาหกรรม #RHControl #Dehumidification #EnergyLoss #OPEX 📆 Updated: 2025-12-12
ผู้จัดจำหน่ายสารเคมีอุตสาหกรรม และอุปกรณ์กรองอากาศจากญี่ปุ่น | Nissei International Thailand
Nissei International (Thailand) Co., Ltd. บริษัทในเครือของ Nissei Corporation ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2006 และจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในปี 2012 เราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย สารเคมีอุตสาหกรรม วัสดุฟังก์ชัน ฟิลเตอร์กรองอากาศ และอุปกรณ์อุตสาหกรรม โดยใช้เครือข่ายจากญี่ปุ่นและทั่วโลก เพื่อช่วยโรงงานไทย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม ■ ธุรกิจของเรา 1. สารเคมี (ผลิตภัณฑ์ Nissan Chemical) - SNOWTEX® (คอลลอยด์ซิลิกา) – ใช้ใน coating, abrasive, binder สำหรับอุตสาหกรรม - Highlight® (Chlorinated Isocyanuric Acid) – ใช้เป็น disinfectant, bleaching agent, sanitizer - Fine Oxocol® (Saturated Alcohol) – ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับ esters, lubricants, cosmetics, ink - Nano Fiber Gel® – ส่วนผสม skincare & haircare เพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันมลภาวะ - Nissan Reishi – อาหารเสริมสุขภาพ เห็ดหลินจือญี่ปุ่น 2. สารเคมีอุตสาหกรรมอื่น ๆ นำเข้าและจัดจำหน่าย Gypsum, Sulfuric Acid, Zeolite, Sodium Sulfate, Hydrochloric Acid ➡ ครอบคลุมการใช้งานใน อุตสาหกรรมเคมี วัสดุก่อสร้าง และการผลิตทั่วไป 3. ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสิ่งแวดล้อม - Honeycomb Filter, Desiccant Rotor, Total Heat Exchange Element ➡ ช่วยให้ ระบบปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้า มี ประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม 4. อุปกรณ์ถ่ายภาพทางอากาศ - Bi Rod (ขาตั้งถ่ายภาพมุมสูง) - Bi Wireless Line (อุปกรณ์ถ่ายภาพไร้สาย) ➡ ใช้ใน การสำรวจ, งานวิศวกรรมภาคสนาม, การวิเคราะห์กีฬา ■ จุดแข็งของเรา ✅ Global Network – สนับสนุนโดยสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่นและเครือข่ายทั่วโลก ✅ High-Quality Products – สารเคมีและอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ในระดับสากล ✅ Market Expertise in Thailand – ทีมงานเข้าใจความต้องการของ อุตสาหกรรมไทย ✅ Eco-Friendly Solutions – ผลิตภัณฑ์ที่ช่วย ลดพลังงานและผลกระทบสิ่งแวดล้อม 📌 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดเอกสาร PDF หรือ ติดต่อเรา ได้ทันที #สารเคมีอุตสาหกรรม #เคมีภัณฑ์ญี่ปุ่น #ฟิลเตอร์กรองอากาศ #โซลูชันประหยัดพลังงาน #วัสดุฟังก์ชัน #โรงงานอุตสาหกรรม #EnergySaving #EcoFriendly #IndustrialSolutions #JapaneseChemicals
Bi Rod Series 11.5m | ขาตั้งกล้องยืดหดได้สำหรับถ่ายภาพมุมสูงและงานตรวจสอบ
Bi Rod Series 11.5m คือ Telescopic Camera Rod (แท่งยืดหดได้) ที่ออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพมุมสูงและงานตรวจสอบอุตสาหกรรม สามารถติดตั้งกล้องถ่ายภาพหรืออุปกรณ์เสริมที่ปลายแท่งเพื่อเก็บข้อมูลได้อย่างสะดวก ผลิตจาก คาร์บอนไฟเบอร์ แข็งแรง น้ำหนักเบา และใช้งานปลอดภัย พร้อม กระเป๋าแข็งสำหรับพกพา ช่วยให้เคลื่อนย้ายและจัดเก็บได้ง่าย เหมาะสำหรับโรงงาน หน่วยงานก่อสร้าง ทีมตรวจสอบวิศวกรรม และนักกีฬา/โค้ชที่ต้องการมุมมองจากที่สูง ผลิตภัณฑ์นี้นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และสามารถให้บริการทั่วประเทศไทย ■ คุณสมบัติเด่น ✅ ยืดได้สูงสุด 11.5 เมตร – ถ่ายภาพได้สูงเทียบเท่ากับอาคาร 3 ชั้น โดยไม่ต้องใช้โดรนหรือบันได ✅ น้ำหนักเบา – โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้พกพาและใช้งานได้สะดวก ✅ ปลอดภัย – มีกลไกป้องกันการหลุดของแท่งยืดหดในระหว่างใช้งาน ✅ รองรับการใช้งานหลากหลาย – ติดตั้งกล้องถ่ายภาพ, อุปกรณ์ส่องสว่าง และสามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริมเพื่อขยายการใช้งาน ✅ อุปกรณ์ครบชุด – มาพร้อมแป้นควบคุม และกระเป๋าแข็งสำหรับพกพา ■ ข้อมูลทางเทคนิค ความยาวสูงสุด: 11,500mm ความยาวพับเก็บ: 1,700mm น้ำหนัก: 3.5kg (เฉพาะแท่งยืดหด) รองรับน้ำหนักได้สูงสุด: 300g วัสดุ: คาร์บอนไฟเบอร์ อุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกัน: แป้นเหยียบ, กระเป๋าแข็งสำหรับพกพา ■ การใช้งาน 📍 งานตรวจสอบที่สูง : ใช้ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร, สะพาน และพื้นที่ที่เข้าถึงยากได้อย่างปลอดภัยจากพื้นดิน 📍 วิเคราะห์การแข่งขันกีฬา : ถ่ายภาพมุมสูงของสนามแข่งขันเพื่อการวิเคราะห์ฟอร์มของนักกีฬา 📍 ถ่ายภาพทิวทัศน์ : ใช้ในบริเวณที่โดรนไม่สามารถบินได้ เช่น พื้นที่ห้ามบินหรือเขตเมือง 📍 ถ่ายภาพใต้น้ำ : สามารถใช้ร่วมกับไวร์เลสไลน์ - อุปกรณ์เสริมสำหรับส่งสัญญาณภาพไร้สาย เพื่อถ่ายภาพใต้น้ำ 📌 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดเอกสาร PDF หรือ ติดต่อเราได้ทันที พร้อมให้บริการลูกค้าทั่วประเทศไทย #ขาตั้งกล้องยืดหดได้ #ถ่ายภาพมุมสูง #งานตรวจสอบอุตสาหกรรม #อุปกรณ์วิศวกรรม #คาร์บอนไฟเบอร์ #โรงงานอุตสาหกรรม #อุปกรณ์ถ่ายภาพ #BiRod #InspectionTool #TelescopicCameraRod
Bi Rod Series 7.5m | ขาตั้งกล้องยืดหดได้ น้ำหนักเบา สำหรับงานตรวจสอบและถ่ายภาพมุมสูง
Bi Rod Series 7.5m เป็น เสายืดหดขนาดยาวที่ออกแบบมาเพื่อการตรวจสอบหลังคาอาคาร, การถ่ายภาพมุมสูง และการวิเคราะห์การแข่งขันกีฬา มีให้เลือก 2 รุ่น คือ คาร์บอนไฟเบอร์ และ ไฟเบอร์กลาส เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งด้าน ความแข็งแรง, น้ำหนัก และงบประมาณ อีกทั้งยังมาพร้อมกระเป๋าหิ้วเพื่อความสะดวกในการพกพา ■ รุ่นคาร์บอนไฟเบอร์ – น้ำหนักเบา แข็งแรง เหมาะสำหรับงานระดับมืออาชีพ 🔹 1.1 รุ่นเดี่ยว (6C-7500) - ความยาวสูงสุด : 7,500 มม. - ความยาวพับเก็บ : 1,550 มม. - น้ำหนัก : 1.6 กก. - รองรับน้ำหนักได้สูงสุด : 300 กรัม - อุปกรณ์เสริม : หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว 🔹 1.2 รุ่นพร้อมขาตั้งกล้อง (6C-7500 Tripod SET) - สเปค : เหมือนกับรุ่นเดี่ยว แต่เพิ่ม ขาตั้งกล้อง (tripod) - น้ำหนักรวม : 3.2 กก. - อุปกรณ์เสริม : ขาตั้งกล้อง, หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว 🔹 1.3 รุ่นพร้อมขาตั้งแบบปรับระดับ (6C-7500 Adjustable Tripod SET) - สเปค : เหมือนกับรุ่นขาตั้งปกติ แต่สามารถปรับระดับขาตั้งได้ - น้ำหนักรวม : 3.6 กก. - อุปกรณ์เสริม : ขาตั้งแบบปรับระดับ, หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว ■ รุ่นไฟเบอร์กลาส – คุ้มค่า แข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป 🔹 2.1 รุ่นเดี่ยว (6G-7500) - ความยาวสูงสุด : 7,500 มม. - ความยาวพับเก็บ : 1,550 มม. - น้ำหนัก : 1.8 กก. - รองรับน้ำหนักได้สูงสุด : 300 กรัม - อุปกรณ์เสริม : หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว 🔹 2.2 รุ่นพร้อมขาตั้งกล้อง (6G-7500 Tripod SET) - สเปค : เหมือนกับรุ่นเดี่ยว แต่เพิ่ม ขาตั้งกล้อง (tripod) - น้ำหนักรวม : 3.4 กก. - อุปกรณ์เสริม : ขาตั้งกล้อง, หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว ■ จุดเด่นของ Bi Rod Series 7.5m ✅ น้ำหนักเบา : ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ หรือ ไฟเบอร์กลาส แข็งแรงทนทาน ✅ รองรับการใช้งานหลากหลาย : ใช้สำหรับตรวจสอบหลังคาอาคาร, วิเคราะห์การแข่งขันกีฬา, ถ่ายภาพทิวทัศน์ ✅ ปลอดภัย : มีระบบป้องกันการหลุดของแท่งยืดหด ✅ พกพาสะดวก : มาพร้อมกระเป๋าหิ้วและสายสะพาย ■ จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ให้บริการจาก กรุงเทพฯ และครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศไทย 📌 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถ download PDF หรือ ติดต่อเราได้ทันที #ขาตั้งกล้องยืดหดได้ #ขาตั้งถ่ายภาพมุมสูง #งานตรวจสอบอุตสาหกรรม #ขาตั้งคาร์บอนไฟเบอร์ #ขาตั้งไฟเบอร์กลาส #อุปกรณ์ถ่ายภาพ #อุปกรณ์วิศวกรรม #โรงงานอุตสาหกรรม #BiRod #TelescopicCameraRod
Bi Rod Series 4.5m | ขาตั้งกล้องยืดหดได้กะทัดรัด น้ำหนักเบา สำหรับงานตรวจสอบและถ่ายภาพ
Bi Rod Series 4.5m เป็น Telescopic Camera Rod ที่มาพร้อมความยาวสูงสุด 4.5 เมตร แต่พับเก็บได้เพียง 1 เมตร น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และสะดวกต่อการพกพา เหมาะทั้งสำหรับ มืออาชีพ (รุ่นคาร์บอนไฟเบอร์) และ ผู้ใช้งานทั่วไป (รุ่นไฟเบอร์กลาส) ■ รุ่นคาร์บอนไฟเบอร์ – แข็งแรง น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับมืออาชีพ 🔹 1.1 รุ่นเดี่ยว (6C-4500) - ความยาวสูงสุด : 4,500 มม. - ความยาวพับเก็บ : 1,000 มม. - น้ำหนัก : 1.1 กก. - รองรับน้ำหนักได้สูงสุด : 500 กรัม - อุปกรณ์เสริม : หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว 🔹 1.2 รุ่นพร้อมขาตั้งกล้อง (6C-4500 Tripod SET) - สเปค : เหมือนกับรุ่นเดี่ยว แต่เพิ่ม ขาตั้งกล้อง (tripod) - น้ำหนักรวม : 2.0 กก. - รองรับน้ำหนักได้สูงสุด : 500 กรัม - อุปกรณ์เสริม : ขาตั้งกล้อง, หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว ■ รุ่นไฟเบอร์กลาส – คุ้มค่า แข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป 🔹 2.1 รุ่นเดี่ยว (6G-4500) - ความยาวสูงสุด : 4,500 มม. - ความยาวพับเก็บ : 1,000 มม. - น้ำหนัก : 1.1 กก. - รองรับน้ำหนักได้สูงสุด : 500 กรัม - อุปกรณ์เสริม : หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว 🔹 2.2 รุ่นพร้อมขาตั้งกล้อง (6G-4500 Tripod SET) - สเปค : เหมือนกับรุ่นเดี่ยว แต่เพิ่ม ขาตั้งกล้อง (tripod) - น้ำหนักรวม : 2.0 กก. - รองรับน้ำหนักได้สูงสุด : 500 กรัม - อุปกรณ์เสริม : ขาตั้งกล้อง, หัวแพนกล้อง, กระเป๋าหิ้ว ■ จุดเด่นของ Bi Rod Series 4.5m ✅ กะทัดรัด พกพาง่าย: ความยาวพับเก็บเพียง 1 เมตร ทำให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ✅ น้ำหนักเบา : ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ หรือ ไฟเบอร์กลาส แข็งแรง ทนทาน ✅ ปลอดภัย : มีระบบป้องกันการหลุดของแท่งยืดหด ✅ รองรับการใช้งานหลากหลาย : ใช้สำหรับตรวจสอบหลังคาอาคาร, วิเคราะห์การแข่งขันกีฬา, ถ่ายภาพทิวทัศน์ ✅ อุปกรณ์ครบชุด : มาพร้อมกระเป๋าหิ้ว พร้อมสายสะพาย ■ การใช้งาน - งานตรวจสอบที่สูง : ตรวจสอบหลังคาและผนังอาคารได้โดยไม่ต้องใช้บันได - วิเคราะห์การแข่งขันกีฬา : ถ่ายภาพมุมสูงของสนามกีฬา เพื่อการวิเคราะห์ - ถ่ายภาพกลางแจ้ง : ใช้ในบริเวณที่โดรนไม่สามารถบินได้ เช่น พื้นที่ห้ามบิน ■ จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ให้บริการจาก กรุงเทพฯ และครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศไทย 📌 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถ download PDF หรือ ติดต่อเราได้ทันที #ขาตั้งกล้องยืดหดได้ #ขาตั้งถ่ายภาพกะทัดรัด #งานตรวจสอบอาคาร #ขาตั้งคาร์บอนไฟเบอร์ #ขาตั้งไฟเบอร์กลาส #อุปกรณ์ถ่ายภาพมุมสูง #โรงงานอุตสาหกรรม #อุปกรณ์วิศวกรรม #BiRod #TelescopicCameraRod
Bi Rod Series 2.0m | ขาตั้งกล้องยืดหดได้กะทัดรัด สำหรับการถ่ายภาพและงานตรวจสอบในพื้นที่จำกัด
Bi Rod Series 2.0m ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวและพื้นที่น้อย เหมาะสำหรับ การถ่ายภาพในสตูดิโอ, งานตรวจสอบอาคาร, และการใช้งานนอกสถานที่ มีทั้งรุ่นเดี่ยวและรุ่นพร้อมขาตั้งกล้องให้เลือก ความยาวพับเก็บเพียง 580 มม. ■ รุ่นและสเปค 🔹 6G-2000 รุ่นเดี่ยว - ความยาวสูงสุด : 2.0 ม. - ความยาวพับเก็บ : 580 มม. - น้ำหนัก : 1.0 กก. - อุปกรณ์เสริม : กระเป๋าหิ้ว 🔹 6G-2000 รุ่นพร้อมขาตั้งกล้อง (Tripod SET) - ความยาวสูงสุด : 2.0 ม. (เสายืดหด) + เสริมความมั่นคงเมื่อใช้ร่วมกับขาตั้งกล้อง - ความยาวพับเก็บ : 580 มม. - น้ำหนัก : 1.0 กก. (เฉพาะเสายืดหด) - อุปกรณ์เสริม : กระเป๋าหิ้ว, ขาตั้งกล้อง ■ จุดเด่นของ Bi Rod Series 2.0m ✅ ดีไซน์กะทัดรัด : พับเก็บเหลือเพียง 580 มม. ทำให้พกพาสะดวก ✅ น้ำหนักเบา : เพียง 1.0 กก. เคลื่อนย้ายและใช้งานได้ง่าย ✅ รองรับการใช้งานหลากหลาย : ใช้สำหรับถ่ายภาพในอาคาร และ งานตรวจสอบในพื้นที่แคบ ✅ เสริมความมั่นคง : สามารถใช้ร่วมกับขาตั้งกล้อง เพื่อเพิ่มความเสถียร ■ การใช้งาน - ถ่ายภาพในอาคาร : เหมาะสำหรับการใช้งานใน พื้นที่จำกัด เช่น สตูดิโอหรือภายในอาคาร - สะดวกต่อการพกพา : พกพาง่าย เหมาะสำหรับการถ่ายภาพนอกสถานที่ - งานตรวจสอบ : ใช้สำหรับการตรวจสอบงานตรวจสอบระดับต่ำถึงกลาง เช่น งานวิศวกรรมและการบำรุงรักษา ■ จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ให้บริการจาก กรุงเทพฯ และครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศไทย 📌 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดเอกสาร PDF หรือ ติดต่อเราได้ทันที #ขาตั้งกล้องยืดหดได้ #ขาตั้งกะทัดรัด #ขาตั้งถ่ายภาพ #งานตรวจสอบอาคาร #อุปกรณ์วิศวกรรม #โรงงานอุตสาหกรรม #อุปกรณ์ถ่ายภาพ #ไฟเบอร์กลาส #BiRod #TelescopicCameraRod
Wireless Line | อุปกรณ์ส่งสัญญาณไร้สายสำหรับถ่ายภาพและตรวจสอบใต้น้ำแบบเรียลไทม์
Wireless Line ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานใต้น้ำ โดยเชื่อมต่อ กล้องกันน้ำ เข้ากับ สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต ผ่าน Wi-Fi ทำให้สามารถดูภาพสด (Live View) และบันทึกวิดีโอได้ทันที มีให้เลือกทั้ง รุ่น Standard (6m, 10m, 15m) สำหรับการใช้งานทั่วไป และ รุ่น Plus (30m, 50m) สำหรับงานถ่ายภาพใต้น้ำเชิงลึก ■ คุณสมบัติเด่นของ Wireless Line ✅ เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi : ไม่ต้องใช้สายสัญญาณเพิ่มเติม เชื่อมต่อระหว่างกล้องถ่ายภาพใต้น้ำ กับ สมาร์ทโฟน ได้อย่างงายดาย ✅ รองรับความยาวสายหลายขนาด : - Bi Wireless Line Standard: 6m, 10m, 15m – เหมาะสำหรับงานถ่ายภาพใต้น้ำทั่วไป - Bi Wireless Line Plus: 30m, 50m – รองรับการถ่ายภาพใต้น้ำระดับลึก ✅ ใช้งานง่าย : ตั้งค่าและเริ่มต้นใช้งานได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน ✅ ออกแบบมาเพื่อการตรวจสอบใต้น้ำ : สายมีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดันน้ำ และลดสัญญาณรบกวน ■ วิธีการใช้งานa 1️⃣ เตรียมอุปกรณ์ 🔹 Smartphone หรือ Tablet : ที่รองรับ Wi-Fi 🔹 กล้องกันน้ำ : เช่น GoPro หรือกล้องที่รองรับ Wi-Fi 🔹 Bi Rod (อุปกรณ์เสริม – เสายืดหด) : ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการใช้งาน 🔹 Wireless Line : เลือกความยาวสายให้เหมาะกับการใช้งาน 2️⃣ การติดตั้ง 🔹 ติดตั้งกล้องกันน้ำเข้ากับ Bi Rod (หากต้องการใช้งานร่วมกัน) 🔹 ติด Wireless Line เข้ากับกล้องเพื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi 🔹 เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับกล้องผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อดูภาพสด 3️⃣ เริ่มต้นใช้งาน 🔹 ยืด Bi Rod ลงน้ำ หรือจัดตำแหน่งให้เหมาะสม 🔹 ตรวจสอบภาพแบบเรียลไทม์ ผ่านสมาร์ทโฟนและบันทึกภาพหรือวิดีโอ ■ การใช้งาน Wireless Line ในหลากหลายอุตสาหกรรม ✅ ถ่ายภาพใต้น้ำ : ใช้สำหรับถ่ายภาพสัตว์น้ำ ธรรมชาติ หรือสำรวจแหล่งน้ำ ✅ งานตรวจสอบใต้น้ำ : ตรวจสอบเขื่อน, ตัวเรือ, สะพานใต้น้ำ ✅ ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมทางน้ำ : ตรวจสอบคุณภาพน้ำหรือสำรวจระบบนิเวศใต้น้ำ ■ จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. 📍 ให้บริการจาก กรุงเทพฯ และครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศไทย 📌 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถ download PDF หรือ ติดต่อเราได้ทันที #WirelessLine #ถ่ายภาพใต้น้ำ #งานตรวจสอบใต้น้ำ #อุปกรณ์ใต้น้ำ #วิจัยทางทะเล #ตรวจสอบเขื่อน #ตรวจสอบเรือ #ตรวจสอบสะพาน #กล้องกันน้ำ #NisseiThailand
แผ่นกรองอากาศรังผึ้ง (Corrugated Honeycomb Filter) | ประสิทธิภาพสูง ลดแรงดัน ประหยัดพลังงาน
แผ่นกรองอากาศรังผึ้ง (Corrugated Honeycomb Filter) ฟิลเตอร์โครงสร้างรังผึ้งที่ออกแบบเพื่อลดการสูญเสียแรงดันอากาศ ช่วยประหยัดพลังงาน ใช้งานได้ในเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ ตู้เย็น และอาคารเชิงพาณิชย์ พร้อมคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส และกำจัด VOCs ---------------------------------------------------------------------------- รายละเอียดผลิตภัณฑ์ ---------------------------------------------------------------------------- Corrugated Honeycomb Filter ผลิตจากวัสดุอนินทรีย์ (Inorganic Material) ที่สามารถปรับขนาดและรูปทรงได้ตามการใช้งานจริง โครงสร้างรังผึ้ง (Honeycomb Structure) ทำให้แรงต้านอากาศต่ำ ช่วยลดการสูญเสียแรงดันและเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ ---------------------------------------------------------------------------- 🔧 จุดเด่นของแผ่นกรองรังผึ้ง ---------------------------------------------------------------------------- - ประยุกต์ใช้ได้เป็นเลิศ และออกแบบได้อย่างอิสระ ใช้วัสดุกระดาษอนินทรีย์ (inorganic paper) ที่สามารถปรับรูปทรงและขนาดได้ตามต้องการ - ลดการสูญเสียแรงดัน ลดแรงต้านการไหลของอากาศให้เหลือน้อยที่สุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงาน - ใช้งานได้หลากหลาย ใช้คู่กับน้ำยาที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมและกลิ่นหรือมลพิษที่ต้องการกำจัด - ราคาคุ้มค่า ผลิตโดยโรงงานที่มีกำลังการผลิตสูง จึงทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ---------------------------------------------------------------------------- 🎯 การใช้งานกับกลิ่นเคมีที่กรองได้ ---------------------------------------------------------------------------- - กลิ่นบุหรี่: แอมโมเนีย (ammonia)、อะซีตัลดีไฮด์ (acetaldehyde) - กลิ่นในชีวิตประจำวัน: ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (hydrogen sulfide)、ไตรเมทิลเอมีน (trimethylamine) - สารเคมีในอาคารสร้างใหม่หรือมีการแก้ไขต่อเติม : ฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde)、โทลูอีน (toluene) - สารมลพิษทางอากาศ: NOx、SOx - ตัวอย่างการใช้งาน: → เครื่องปรับอากาศ (air conditioners) → เครื่องฟอกอากาศ (air purifiers) → ตู้เย็น (refrigerators) → สถานพยาบาล (medical facilities) → สถานประกอบการ, ร้านอาหาร, ยานพาหนะระบบราง ---------------------------------------------------------------------------- 📐 สเปคสินค้า ---------------------------------------------------------------------------- - ขนาดสูงสุด: 500mm × 500mm, หนาอย่างน้อย 5mm - ชนิดเซลล์: A, B, C, F สามารถเลือกใช้งานได้หลายชนิด - ประสิทธิภาพการกำจัดกลิ่น (Deodorization performance): ใช้งานร่วมกับการดูดกลิ่นด้วยเซลล์แสง (photocatalyst) และสารดูดซับทางกายภาพ (Physical adsorbents) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ---------------------------------------------------------------------------- 🛡️ ฟังก์ชันเพิ่มเติม ---------------------------------------------------------------------------- - ยับยั้งแบคทีเรีย (Antibacterial): ใช้สารต้านแบคทีเรียที่มีส่วนผสมของเงิน (silver-based)、นาโนเฟอร์ไรต์ (nano ferrite)、และสารสกัดจากพืชธรรมชาติ - ยับยั้งไวรัส (Antiviral): ใช้ไททาเนียมไดออกไซด์ ที่เป็นสารเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง (photocatalytic TiO₂) หรือสารยับยั้งไวรัสที่มีส่วนผสมของเงิน - กำจัด VOCs: ด้วยสารเคมีดูดซับชนิดออกซิเดชัน、รีดักชัน หรือการทำปฏิกิริยาแบบเป็นกลาง (oxidation, reduction, neutralization) ---------------------------------------------------------------------------- 📩 หากท่านสนใจสามารถสอบถามหรือดาวน์โหลดแคตตาล็อก PDF ---------------------------------------------------------------------------- ผลิตภัณฑ์นี้จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. มีบริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย #แผ่นกรองอากาศ #ฟิลเตอร์รังผึ้ง #CorrugatedHoneycombFilter #ฟิลเตอร์ประสิทธิภาพสูง #เครื่องปรับอากาศ #เครื่องฟอกอากาศ #โรงงานอุตสาหกรรม #ลดแรงดันอากาศ #กรองVOC #กรองเชื้อโรค
วงล้อดูดซับความชื้น (Desiccant Rotor) | เทคโนโลยีควบคุมความชื้นด้วยซีโอไลต์ ประสิทธิภาพสูง
Desiccant Rotor คืออุปกรณ์ควบคุมความชื้นที่ใช้วัสดุดูดซับอย่าง ซีโอไลต์ (Zeolite) และ ซิลิกาเจล ช่วยลดความชื้นในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ใช้สารทำความเย็นฟลูออโรคาร์บอน จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในครัวเรือน อาคารเชิงพาณิชย์ และอุตสาหกรรม 📌รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Desiccant Rotor ถูกออกแบบด้วยโครงสร้าง Corrugated Honeycomb ที่ช่วยลดแรงดันสูญเสียของอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความชื้น สามารถนำความชื้นที่ดูดซับไว้กลับมาใช้ใหม่ผ่านการให้ความร้อน ทำให้เป็นระบบที่ ประหยัดพลังงาน และคุ้มค่ากว่า dehumidifier แบบเดิม 🔧 จุดเด่นของวงล้อดูดซับความชื้น (Desiccant Rotor) - นำความชื้นที่ดูดซับไว้มาใช้ใหม่: สามารถดูดซับความชื้นในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปล่อยความชื้นที่ดูดซ้บไว้ออกมาใช้โดยการใช้ความร้อน - แรงดันสูญเสียต่ำ: โครงสร้างรังผึ้ง (corrugated honeycomb structure) ช่วยให้การดูดและปล่อยความชื้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ - ทำงานได้แม้ในอุณหภูมิต่ำ: ใช้ซีโอไลต์ชนิดพิเศษที่ยังคงสามารถดูดความชื้นได้ดีแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ 📐 ข้อมูลทางเทคนิค - ชนิดเซลล์ (Cell type): 1832, 1631, 1427, 1226 (เลือกได้ตามขนาดของเซลล์) - ขนาดโครงสร้าง (Dimensions): เส้นผ่านศูนย์กลางด้านใน φ30~60 มม., ด้านนอกไม่เกิน φ350 มม., ความหนาอย่างน้อย 15 มม. - วัสดุดูดความชื้น (Desiccant material): ซีโอไลต์สังเคราะห์ (synthetic zeolite), ซิลิกาเจล (silica gel) ฯลฯ 🏭 ตัวอย่างการใช้งาน - การตากผ้าในร่ม: เหมาะสำหรับพื้นมีการซักผ้า เช่น ห้องอบผ้าในโรงแรม โรงพยาบาล หรือศูนย์ซักรีดอุตสาหกรรม - การใช้งานในอุตสาหกรรม: ควบคุมความชื้นในโรงงานหรือคลังเก็บสินค้า - สถานประกอบการ: ใช้ร่วมกับระบบแอร์เพื่อปรับอากาศและฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🏢 ข้อมูลบริษัทผู้จัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์นี้จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และให้บริการลูกค้าทั่วทั้งประเทศไทย พร้อมนำเสนอสินค้าคุณภาพและบริการที่เชื่อถือได้ 📩 สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดาวน์โหลดเอกสาร PDF หรือสอบถามรายละเอียดได้ทุกเมื่อ #วงล้อดูดซับความชื้น #DesiccantRotor #ควบคุมความชื้น #เครื่องลดความชื้น #Zeolite #SilicaGel #โรงงานอุตสาหกรรม #ระบบปรับอากาศ #NisseiThailand
แผ่นแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchange Core Element) | ประหยัดพลังงานระบบปรับอากาศ
ในยุคที่อาคารที่พักอาศัยและสำนักงานเน้นการออกแบบแบบ โดยใช้ฉนวนกันความร้อนมากขึ้น ความสำคัญของการระบายอากาศก็ยิ่งมากขึ้นตาม แผ่นแลกเปลี่ยนความร้อน (heat exchange element) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยแลกเปลี่ยนอากาศระหว่างภายในและภายนอก พร้อมทั้ง ถ่ายเทความร้อนและ ความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากระบบแอร์หรือฮีตเตอร์ และเพิ่มความสบายในการอยู่อาศัย ■ จุดเด่นของแผ่นคอร์แลกเปลี่ยนพลังงานรวม (Total Heat Exchange Core Element) ✅ Temperature & Humidity Recovery – รับ-ถ่ายโอนทั้งอุณหภูมิและความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ ✅ High Energy Efficiency – ลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ/ฮีตเตอร์ ✅ Flexible Design – รองรับการติดตั้งกับระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศหลายประเภท ✅ เหมาะกับอาคารประหยัดพลังงาน – ตอบโจทย์บ้านพักอาศัยสมัยใหม่ อาคารสำนักงาน และโครงการเชิงพาณิชย์ 🏢 การใช้งานหลัก - พัดลมระบายอากาศเชิงพาณิชย์ (commercial ventilation fan) - ระบบระบายอากาศ 24 ชั่วโมงสำหรับบ้านพักอาศัย (24-hour home ventilation system) - การฟอกอากาศและระบายอากาศในอาคารที่เน้นความประหยัดพลังงาน เช่น บ้านประหยัดพลังงาน (eco house) และศูนย์การค้า 📊 ผลการทดสอบ - ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอุณหภูมิในโหมดทำความเย็น (Cooling): 71.4% - ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอุณหภูมิในโหมดให้ความร้อน (Heating): 72.4% - ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อนโดยรวม (Total heat exchange efficiency): 57.9% – 67.8% 📐 ข้อมูลทางเทคนิค - ขนาดเซลล์ (Cell size): 1.9mm × 4.9mm (ตัวอย่าง) - ขนาดผลิตภัณฑ์ (Dimensions): 250 × 250 × 100 มม. (รุ่นมาตรฐาน) - อัตราการไหลของลมที่รองรับ (Air volume capacity): 90㎥/CMH 🏢 ข้อมูลบริษัทผู้จัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์นี้จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย ด้วยคุณภาพและความเชี่ยวชาญระดับสากล 📩 สามารถดาวน์โหลดแคตตาล็อก PDF หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกเมื่อ #แผ่นแลกเปลี่ยนความร้อน #HeatExchangeCore #ฟิลเตอร์ประหยัดพลังงาน #ระบบระบายอากาศ #ระบบHVAC #อาคารประหยัดพลังงาน #โรงงานอุตสาหกรรม #EcoBuilding #TotalHeatExchange #NisseiThailand
แผ่นกรองกลิ่นเซรามิคชนิดไม่ลามไฟ (Non-combustible Ceramic Deodorizing Filter) | สำหรับระบบดูดควัน
แผ่นกรองเซรามิคชนิดไม่ลามไฟ ผลิตจากกระดาษพิเศษขึ้นรูปแบบ Corrugated Process เคลือบด้วย สารดูดซับอนินทรีย์ (Inorganic Adsorbent) และ ตัวเร่งปฏิกิริยา (Room-temperature Catalyst) ช่วยกำจัดกลิ่นควันและมลภาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมคุณสมบัติ ไม่ติดไฟ ปลอดภัยต่อการใช้งานในครัวและอาคาร ■ จุดเด่นของแผ่นกรองกลิ่นเซรามิค (Ceramic Deodorizing Filter) ✅ กรองกลิ่น + ปลอดภัยจากไฟ – ดักจับกลิ่นพร้อมคุณสมบัติไม่ลามไฟ ✅ แรงดันสูญเสียต่ำ – ช่วยลดขนาดเครื่องระบายอากาศเมื่อเทียบกับฟิลเตอร์แบบ Extrusion ✅ น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย – เหมาะกับปล่องดูดควันและ Hood ครัวเชิงพาณิชย์ ✅ ราคาคุ้มค่า – ผลิตจำนวนมากได้ ทำให้ต้นทุนต่ำ และเหมาะกับงานเชิงพาณิชย์ 📐 ข้อมูลโครงสร้างและขนาด (Cell Type & Dimensions) 📍ประเภทเซลล์ (Cell Type) - ขนาด 2.3 × 4.8 มม. (จำนวนเซลล์ประมาณ 120 เซลล์) - ขนาด 2.0 × 3.2 มม. (ประมาณ 200 เซลล์) - ขนาด 1.8 × 3.1 มม. (ประมาณ 240 เซลล์) - ขนาด 1.7 × 2.7 มม. (ประมาณ 280 เซลล์) 📍ขนาดตัวกรอง (Filter dimensions): - ความยาว (L): สูงสุด 300 มม. - ความกว้าง (W): สูงสุด 300 มม. - ความหนา (T): 30–120 มม. 🏢 แผ่นกรองเซรามิกชนิดไม่ลามไฟนี้จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. บริษัทมีสำนักงานในกรุงเทพฯ และให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย 📩 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดาวน์โหลด PDF หรือสอบถามรายละเอียดกับทีมงานได้ทุกเมื่อ #แผ่นกรองกลิ่น #ฟิลเตอร์เซรามิค #CeramicFilter #แผ่นกรองไม่ลามไฟ #ระบบดูดควันร้านอาหาร #ครัวเชิงพาณิชย์ #ฟิลเตอร์ประสิทธิภาพสูง #ระบบระบายอากาศ #NisseiThailand
สารเติมแต่งโพลีโพรพิลีนกราฟต์ Kayabrid | MAPP สำหรับเพิ่มความเข้ากันได้ของวัสดุคอมโพสิต
Kayabrid สารเติมแต่ง MAPP (Maleic Anhydride Modified Polypropylene) ที่มีอัตราการกราฟต์สูงและน้ำหนักโมเลกุลสูง ช่วยเพิ่มการเข้ากันได้ระหว่าง โพลีโพรพิลีน (PP) และเส้นใยเสริมแรง เช่น ใยแก้ว ใยคาร์บอน และ CNF ทำให้วัสดุคอมโพสิตมี ความแข็งแรง ทนทาน และยึดเกาะได้ดีกว่าเดิม เหมาะกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง และสายไฟเคเบิล ■ คุณสมบัติเด่น - มีอัตราการกราฟต์สูง เหมาะต่อการสร้างพันธะเอสเตอร์ (Ester Bonding) - น้ำหนักโมเลกุลสูง ช่วยเพิ่มการพันกันกับเรซินพอลิโพรพิลีน (PP Matrix Resin) - เพิ่มความแข็งแรงของการยึดเกาะกับใยแก้ว (Glass Fiber) และ CNF - ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความต้านทานแรงกระแทกของวัสดุคอมโพสิต เช่น GFRPP (Glass Fiber Reinforced PP) และ WPC (Wood Plastic Composite) - รองรับการจัดส่งทั่วประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี ■ ข้อมูลทางเทคนิค - ชื่อผลิตภัณฑ์: 002PP / 002PP-NW / 003PP-NW - อัตราการกราฟต์ (wt%): 1.75~3.40 - MFR (180℃, 2.16kgf): ≥ 300g - ลักษณะภายนอก: สีเหลืองอ่อนถึงเหลืองขาวอ่อน ■ การใช้งาน 1. การปรับเข้ากันของวัสดุ (Compatibilization) เพื่อผสานวัสดุประเภทพลาสติกและเส้นใย เช่น ใยแก้ว, คาร์บอนไฟเบอร์, เส้นใยธรรมชาติให้แน่นหนา ส่งผลให้วัสดุทนทานและแข็งแรง เหมาะสำหรับ วัสดุก่อสร้างและ ชิ้นส่วนยานยนต์ 2. การเคลือบผิวอย่างเรียบเนียน (Surface Coating) ใช้เป็นรองพื้นสำหรับสี หรือ ไพรเมอร์ เพื่อป้องกันการหลุดลอกของชั้นเคลือบ เพิ่มความสวยงามและอายุการใช้งาน 3. การยึดเกาะของวัสดุหลากชนิด (Bonding Multilayer Materials) เหมาะสำหรับการผลิตฟิล์ม หรือ แผ่นหลายชั้น (Multilayer Sheet) ที่ต้องการการยึดติดแน่น เช่น ในผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่าง สายอีโค่เคเบิล ■ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้งาน - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (Automotive Parts Manufacturer) - ผู้ผลิตสายไฟและเคเบิล (Cable Manufacturer) - ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ภายในบ้าน (Building Materials & Housing Equipment Manufacturer) - ผู้ผลิตฟิล์มและวัสดุบรรจุภัณฑ์ (Film & Packaging Manufacturer) ■ สามารถดาวน์โหลด PDF สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อสอบถามได้ตลอดเวลา #สารเติมแต่งพลาสติก #Kayabrid #MAPP #Polypropylene #วัสดุคอมโพสิต #GlassFiber #CNF #วัสดุวิศวกรรม #NisseiThailand
ผงบิสมัทบริสุทธิ์สูง Metallic Bismuth Powder | วัสดุโลหะผสมอุณหภูมิต่ำและอิเล็กทรอนิกส์
Metallic Bismuth Powder ผงโลหะบิสมัทความบริสุทธิ์สูงกว่า 99.99% ขนาดอนุภาคละเอียด 100–500 เมช ผลิตด้วยเทคนิค Ball-mill รูปทรงหลายเหลี่ยม สีเทาเข้ม จุดหลอมเหลวต่ำ เหมาะสำหรับ โลหะผสม, บัดกรีอุณหภูมิต่ำ, วัสดุอิเล็กทรอนิกส์ และสารเติมแต่งนาโน ■ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Bismuth Powder (Bi) เป็นผงโลหะที่มี CAS No. 7440-69-9 และ น้ำหนักโมเลกุล 208.98 มีคุณสมบัติเด่นคือ ความบริสุทธิ์สูง, จุดหลอมเหลวต่ำ (271.3°C), จุดเดือด 1564°C ทำให้เหมาะกับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่วัสดุโลหะผสมไปจนถึงวัสดุอิเล็กทรอนิกส์และนาโนเทคโนโลยี ■ คุณสมบัติ ✅ ความบริสุทธิ์สูงกว่า 99.99% – ควบคุมสิ่งเจือปนให้อยู่ในระดับต่ำ ✅ ขนาดอนุภาคละเอียด 100–500 เมช – เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ✅ ผลิตด้วยเทคนิค Ball-mill – ทำให้ได้ผงละเอียดสม่ำเสมอ ✅ จุดหลอมเหลวต่ำ (271.3°C) – เหมาะกับการทำโลหะผสมอุณหภูมิต่ำและงานบัดกรี ■ สเปคผลิตภัณฑ์ - สูตรเคมี: Bi - น้ำหนักโมเลกุล: 208.98 - จุดหลอมเหลว: 271.3°C - จุดเดือด: 1564°C - ขนาดอนุภาค: 100–500 เมช - เทคโนโลยี: Ball milling - ลักษณะภายนอก: ผงเทาเข้ม รูปทรงหลายเหลี่ยม ■ ส่วนประกอบของสิ่งเจือปน (หน่วย: PPm) - ทองแดง (Cu): 2 ppm - เหล็ก (Fe): <1 ppm - ตะกั่ว (Pb): <3 ppm - สังกะสี (Zn): <1 ppm - เงิน (Ag): <3 ppm - พลวง (Sb): <3 ppm - สารหนู (As): <3 ppm - เทลลูเรียม (Te): <3 ppm ■ การใช้งาน 📍 โลหะผสมบิสมัท – บัดกรีไร้สารตะกั่ว, โลหะอุณหภูมิต่ำ 📍 อุตสาหกรรมโลหะ – สารเติมแต่งในโรงงานเหล็ก, วัสดุเจาะสำรวจน้ำมัน 📍 วัสดุหล่อและพลาสติก – วัสดุหล่อแม่นยำ, ฟิลเลอร์ในพลาสติก, ล้อขัด, อุปกรณ์เจียร 📍 วัสดุอิเล็กทรอนิกส์ – วัสดุกึ่งตัวนำ, ตัวอย่างวิเคราะห์แล็บ 📍 สารเติมแต่งนาโน – ฟิลเลอร์ในจาระบีโลหะ, วัสดุสำหรับแม่เหล็ก ผลิตภัณฑ์นี้จัดจำหน่ายโดย บริษัท NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และสามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในเขตกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ■ ดาวน์โหลด PDF หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที #ผงบิสมัท #BismuthPowder #ผงโลหะบริสุทธิ์ #โลหะผสมอุณหภูมิต่ำ #วัสดุอิเล็กทรอนิกส์ #ฟิลเลอร์นาโน #วัสดุหล่อแม่นยำ #โลหะกึ่งตัวนำ #NisseiThailand
ผงบิสมัทออกไซด์นาโน (Nano Bismuth Oxide Powder) | วัสดุอิเล็กทรอนิกส์และตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน
Nano Bismuth Oxide Powder (Bi₂O₃) ผงออกไซด์บริสุทธิ์สูงกว่า 99.90% ขนาดอนุภาคนาโน D50 < 1μm สีเหลืองถึงส้ม ผลิตด้วยกระบวนการ Pyrometallurgy เหมาะสำหรับ วัสดุอิเล็กทรอนิกส์, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, ตัวเร่งปฏิกิริยา, แบตเตอรี่ และเคลือบป้องกันการกัดกร่อน ■ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Bismuth Oxide (Bi₂O₃) เป็นสารออกไซด์ที่มีสมบัติเด่นด้าน Dielectric, Semiconducting และ Catalytic ผลิตในรูปแบบ ผงนาโน Type β ทำให้มีความเสถียรสูงและสิ่งเจือปนน้อย จึงเหมาะสำหรับงานวิจัยและการใช้งานอุตสาหกรรมที่ต้องการคุณภาพสูง ■ คุณสมบัติเด่น - ความบริสุทธิ์สูง Bi₂O₃ > 99.90% - ขนาดอนุภาคเฉลี่ย D50 < 1μm - โครงสร้างผลึกแบบ Type β มีความเสถียรสูง - ลักษณะสีเหลืองถึงส้ม - ผลิตด้วยวิธี Pyrometallurgy ทำให้มีสิ่งเจือปนน้อย ■ ข้อมูลทางเทคนิค - สูตรเคมี: Bi₂O₃ - น้ำหนักโมเลกุล: 465.96 - CAS No.: 1304-76-3 - จุดหลอมเหลว: 825℃ - จุดเดือด: 1890℃ - ขนาดอนุภาคเฉลี่ย: D50 < 1μm - ลักษณะ: ผงสีเหลืองถึงส้ม - วิธีการผลิต: Pyrometallurgy - โครงสร้างผลึก: Type β ■ สิ่งเจือปน (PPm) - ตะกั่ว (Pb): 5 - ทองแดง (Cu): 2 - เหล็ก (Fe): 2 - โซเดียม (Na): <1 - คลอไรด์ (Cl⁻): <3 - ซัลเฟต (SO₄²⁻): <3 ■ การใช้งาน - วัสดุเซรามิกอิเล็กทรอนิกส์ (Dielectric, Semiconductors) - วัสดุออปโตอิเล็กทรอนิกส์ (Image sensors, lasers) - ตัวเร่งปฏิกิริยาอุตสาหกรรม - อิเล็กโทรไลต์ในเซลล์เชื้อเพลิง - สารแต่งสีกระจก - สารหน่วงไฟปลอดสารตะกั่ว / ยากึ่งสำเร็จรูป - เคลือบกันสนิม / ฟิล์มต้านการกัดกร่อน - วัสดุสำหรับแบตเตอรี่สังกะสี-แมงกานีส และแบตเตอรี่ตะกั่ว ผลิตภัณฑ์นี้จัดจำหน่ายโดย บริษัท NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และพร้อมให้บริการทั่วประเทศไทย ■ ดาวน์โหลด PDF หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที #ผงบิสมัทออกไซด์ #NanoBismuthOxide #Bi2O3 #วัสดุอิเล็กทรอนิกส์ #ตัวเร่งปฏิกิริยา #วัสดุแบตเตอรี่ #สารเคลือบกันสนิม #วัสดุเซรามิก #NisseiThailand
ผงบิสมัทออกไซด์ความบริสุทธิ์สูง (High-purity Bismuth Oxide) | วัสดุเซรามิกอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่
High-purity Bismuth Oxide (Bi₂O₃) ผงออกไซด์ความบริสุทธิ์สูงกว่า 99.90% โครงสร้างผลึกชนิด Type α สีเหลืองอ่อน ขนาดอนุภาคเฉลี่ย 1.5–30 μm ผลิตด้วยกระบวนการ Pyrometallurgy เหมาะสำหรับ เซรามิกอิเล็กทรอนิกส์, ตัวเร่งปฏิกิริยา, เคลือบกันสนิม และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ■ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ Bismuth Oxide (Bi₂O₃) เป็นสารออกไซด์อนินทรีย์ที่ใช้ใน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และเคมีภัณฑ์ ด้วยคุณสมบัติ Dielectric, Photocatalytic และ Corrosion-resistant มีให้เลือกหลายเกรดตามขนาดอนุภาค (D50) ตั้งแต่ 1.5–30 μm เพื่อรองรับงานที่ต้องการความแม่นยำและความทนทานสูง ■ คุณสมบัติ - ความบริสุทธิ์ Bi₂O₃ > 99.90% - โครงสร้างผลึกแบบ Type α มีความเสถียร - มีขนาดอนุภาคให้เลือกหลากหลาย (D50): 1.5–3.5μm 5–10μm 10–20μm 20–30μm - สีเหลืองอ่อน (Light Yellow) - ผลิตด้วยกระบวนการ Pyrometallurgy ที่ควบคุมคุณภาพสูง ■ ข้อมูลทางเทคนิค - สูตรเคมี: Bi₂O₃ - น้ำหนักโมเลกุล: 465.96 - CAS No.: 1304-76-3 - จุดหลอมเหลว: 825℃ - จุดเดือด: 1890℃ - ลักษณะ: ผงสีเหลืองอ่อน - โครงสร้างผลึก: Type α - เทคโนโลยีการผลิต: Pyrometallurgy - ขนาดอนุภาคเฉลี่ย (D50): 1.5–3.5μm / 5–10μm / 10–20μm / 20–30μm ■ สิ่งเจือปน (PPm): - ตะกั่ว (Pb): <3 - ทองแดง (Cu): 2 - เหล็ก (Fe): 2 - โซเดียม (Na): <1 - คลอไรด์ (Cl⁻): <3 - ซัลเฟต (SO₄²⁻): <3 ■ การใช้งาน - วัสดุเซรามิกอิเล็กทรอนิกส์ - การผลิตเกลือบิสมัท - สารแต่งสีกระจก - วัสดุถ่ายภาพ / วัสดุออปโตอิเล็กทรอนิกส์ - วัสดุกันรังสี - ตัวนำยิ่งยวดอุณหภูมิสูง - ตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน - สารตั้งต้นยาและเคมี - สารหน่วงไฟ - เคลือบกันสนิม / ฟิล์มต้านการกัดกร่อน - อิเล็กโทรไลต์สำหรับเซลล์เชื้อเพลิง - สารเติมแต่งสำหรับแบตเตอรี่ Zn-Mn และตะกั่วกรด ผลิตภัณฑ์นี้จัดจำหน่ายโดย NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ และให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย ■ ดาวน์โหลด PDF หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที #ผงบิสมัทออกไซด์ #HighPurityBismuthOxide #Bi2O3 #เซรามิกอิเล็กทรอนิกส์ #ตัวเร่งปฏิกิริยา #วัสดุแบตเตอรี่ #สารหน่วงไฟ #เคลือบกันสนิม #NisseiThailand
Bi Rod คืออะไร? | อุปกรณ์ถ่ายภาพมุมสูงที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และคุ้มค่า
Bi Rod เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอจากมุมสูงได้โดยไม่ต้องใช้โดรน เหมาะสำหรับงานถ่ายภาพระดับมืออาชีพ การตรวจสอบอาคารสูง หรือแม้แต่การถ่ายวิดีโอคอนเทนต์ในสถานที่ที่โดรนไม่สามารถใช้งานได้ ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง น้ำหนักเบา และความสามารถในการยืดหด Bi Rod กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหลายอุตสาหกรรม ============================ 1. Bi Rod คืออะไร? Bi Rod เป็นเสายืดหดได้ที่ออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพและตรวจสอบพื้นที่สูง โดยสามารถติดตั้งกล้องหรือสมาร์ทโฟนที่ปลายเสาเพื่อถ่ายภาพมุมสูง โดยไม่ต้องใช้โดรน อุปกรณ์นี้มักผลิตจาก คาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) หรือ อะลูมิเนียม (Aluminum) เพื่อให้มีความแข็งแรงแต่ยังคงน้ำหนักเบา คุณสมบัติเด่นของ Bi Rod ✅ สามารถยืดได้ถึง 11.5 เมตร – ช่วยให้สามารถเข้าถึงมุมสูงได้ง่าย ✅ วัสดุแข็งแรง น้ำหนักเบา – ใช้งานสะดวกและพกพาได้ง่าย ✅ รองรับอุปกรณ์ถ่ายภาพหลากหลาย – ใช้ได้กับกล้อง DSLR, GoPro และสมาร์ทโฟน ✅ ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ – ประหยัดพลังงานและใช้งานได้ต่อเนื่อง ============================ 2. Bi Rod ใช้ทำอะไรได้บ้าง? 📷 การถ่ายภาพและวิดีโอมุมสูง Bi Rod เหมาะสำหรับช่างภาพและครีเอเตอร์ที่ต้องการ มุมมองจากที่สูง โดยไม่ต้องใช้โดรน เช่น - ถ่ายภาพงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต หรือกีฬา - ถ่ายภาพวิวเมืองและธรรมชาติจากมุมสูง - ถ่ายวิดีโอคอนเทนต์สำหรับโซเชียลมีเดีย 🏗 การตรวจสอบอาคารและโครงสร้างสูง ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง Bi Rod ใช้เพื่อตรวจสอบหลังคา โครงสร้างอาคาร หรือพื้นที่สูง ที่ต้องการการตรวจสอบโดยไม่ต้องปีนขึ้นไป ลดความเสี่ยงในการทำงาน 🏛 งานสำรวจและตรวจสอบสถานที่ เหมาะสำหรับนักสำรวจและวิศวกรที่ต้องการ ตรวจสอบพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น - ตรวจสอบสะพานและโครงสร้างทางวิศวกรรม - ตรวจสอบพื้นที่ทางโบราณคดี ============================ 3. เลือกซื้อ Bi Rod อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน? ✅ เลือกความยาวที่เหมาะสม – รุ่นที่ยืดได้ 2.0m, 4.5m, 7.5m, 11.5m เหมาะกับงานที่ต่างกัน ✅ เลือกวัสดุที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา – คาร์บอนไฟเบอร์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการพกพา ✅ ตรวจสอบความสามารถในการรองรับน้ำหนัก – ให้แน่ใจว่าสามารถรองรับกล้องที่คุณใช้งานได้ ============================ 🔥 แนะนำผลิตภัณฑ์: Bi Rod จาก NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. หากคุณกำลังมองหา Bi Rod ที่มีคุณภาพสูง ใช้งานง่าย และเหมาะกับงานถ่ายภาพมุมสูง Bi Rod ของเราเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา รองรับอุปกรณ์ถ่ายภาพหลากหลาย 📩 ติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือดาวน์โหลดเอกสาร PDF ได้เลยครับ #BiRod #ขาตั้งกล้องยืดหดได้ #อุปกรณ์ถ่ายภาพมุมสูง #ตรวจสอบอาคาร #งานสำรวจวิศวกรรม #อุปกรณ์ถ่ายภาพ #NisseiThailand
Bi Rod vs โดรน | เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพมุมสูง
ในการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอจากมุมสูง หลายคนอาจสงสัยว่าควรใช้ Bi Rod หรือโดรน (Drone) ดี ทั้งสองอุปกรณ์มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้งาน ในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Bi Rod กับโดรน และแนะนำวิธีเลือกใช้งานให้เหมาะสม ================================ 🔹 1. Bi Rod คืออะไร? ใช้งานอย่างไร? Bi Rod เป็น เสายืดหดได้ ที่ออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอมุมสูง โดยไม่ต้องใช้โดรน ผู้ใช้สามารถติดตั้งกล้องหรือสมาร์ทโฟนที่ปลายเสา และควบคุมมุมกล้องจากระยะไกล 📌 ข้อดีของ Bi Rod ✅ ใช้งานง่าย – ไม่ต้องฝึกควบคุมเหมือนโดรน ✅ ปลอดภัย – ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการตกหรือชนสิ่งกีดขวาง ✅ ใช้ได้ในพื้นที่ห้ามบินโดรน – เช่น สนามบิน โรงงาน หรือพื้นที่พลุกพล่าน ✅ ยืดได้สูงสุด 11.5 เมตร – ให้มุมมองที่กว้างขึ้นและเข้าถึงพื้นที่สูงได้ง่าย ✅ ไม่ใช้แบตเตอรี่ – ใช้งานได้นานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด 📌 ข้อจำกัดของ Bi Rod ❌ ต้องใช้แรงคนในการยกและจับถือ ❌ มุมมองจำกัด – ไม่สามารถถ่ายภาพแบบเคลื่อนที่จากระยะไกลได้ ================================ 🔹 2. โดรนคืออะไร? ใช้งานอย่างไร? โดรน (Drone) หรืออากาศยานไร้คนขับ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถบินขึ้นไปถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอจากมุมสูงได้โดยใช้รีโมตควบคุม 📌 ข้อดีของโดรน ✅ สามารถบินสูงได้หลายร้อยเมตร – ให้มุมมองกว้างไกล ✅ ถ่ายวิดีโอเคลื่อนที่ได้อย่างลื่นไหล – เหมาะสำหรับงานโปรดักชัน ✅ ใช้งานในพื้นที่กว้าง – ไม่ต้องใช้แรงคนถือ 📌 ข้อจำกัดของโดรน ❌ อาจถูกจำกัดการใช้งานในบางพื้นที่ – เช่น สนามบิน โรงงาน เขตเมืองใหญ่ ❌ ต้องมีทักษะการควบคุม – หากใช้งานไม่ถูกต้อง อาจเกิดอุบัติเหตุ ❌ ใช้แบตเตอรี่และมีระยะเวลาการบินจำกัด – ส่วนใหญ่บินได้นานประมาณ 20-30 นาทีต่อแบตเตอรี่ 1 ก้อน ❌ ราคาแพงกว่า Bi Rod – โดยเฉพาะรุ่นที่มีคุณภาพสูง ================================ 🎯 3. วิธีเลือกใช้งานให้เหมาะสม ✅ เลือกใช้ Bi Rod ถ้า... - ต้องการถ่ายภาพมุมสูงในพื้นที่ที่ โดรนห้ามบิน - ต้องการความ ปลอดภัยสูง และไม่ต้องกังวลเรื่องการตก - ต้องการ อุปกรณ์ที่ใช้งานได้นาน โดยไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่ - ต้องการ ความสูงที่มากกว่าเสายืดทั่วไป (สูงสุด 11.5 เมตร) ✅ เลือกใช้โดรน ถ้า... - ต้องการถ่าย วิดีโอเคลื่อนที่ และต้องการมุมมองที่กว้าง - ต้องการ ถ่ายภาพในระดับความสูงมากกว่า 11.5 เมตร - ใช้ในพื้นที่ที่อนุญาตให้บินโดรนได้ ================================ 🔥 แนะนำผลิตภัณฑ์: Bi Rod จาก NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. หากคุณกำลังมองหา Bi Rod คุณภาพสูง ที่สามารถช่วยให้การถ่ายภาพมุมสูงเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย Bi Rod ของเราเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยวัสดุแข็งแรง น้ำหนักเบา และสามารถใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ 📩 สนใจข้อมูลเพิ่มเติม? ดาวน์โหลดเอกสาร PDF หรือสอบถามเราได้เลยครับ! #BiRod #ขาตั้งกล้องยืดหดได้ #ถ่ายภาพมุมสูง #เปรียบเทียบโดรน #งานตรวจสอบอาคาร #อุปกรณ์วิศวกรรม #DroneVsBiRod #NisseiThailand
แผ่นกรองอากาศรังผึ้ง (Honeycomb Filter) | หลักการทำงานและประโยชน์ในโรงงานอุตสาหกรรม
แผ่นกรองอากาศรังผึ้ง (Corrugated Honeycomb Filter) คืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยลดปริมาณฝุ่น ควัน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ในโรงงาน ด้วยโครงสร้างพิเศษที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการทั้งคุณภาพอากาศและการประหยัดพลังงาน ================================= 1. แผ่นกรองอากาศรังผึ้ง คืออะไร? ================================= แผ่นกรองอากาศรังผึ้ง เป็นแผ่นกรองที่ออกแบบภายในให้เป็นลักษณะคล้ายรังผึ้ง ช่วยให้: - มีพื้นที่ผิวสัมผัสกับอากาศมาก - ให้อากาศไหลผ่านได้ง่าย ไม่อุดตันง่าย - ดักจับฝุ่น ควัน และอนุภาคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างนี้ทำให้ตัวกรองมีอายุการใช้งานนาน ทนความร้อนสูง และเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานหนัก ================================= 2. หลักการทำงานของแผ่นกรองรังผึ้ง ================================= กระบวนการทำงานของแผ่นกรองรังผึ้งมีลักษณะดังนี้: - อากาศที่มีสิ่งปนเปื้อนจะไหลผ่านช่องรังผึ้ง - ฝุ่นและสารแขวนลอยจะเกาะตัวตามผิววัสดุกรอง - อากาศสะอาดจะถูกปล่อยออกไป - ช่วยลดปัญหามลพิษ กลิ่น และสารพิษที่อาจเกิดขึ้นในโรงงาน นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบฟอกอากาศหรือเตาเผากลิ่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้อีกด้วย ================================= 3. อุตสาหกรรมไหนเหมาะกับแผ่นกรองรังผึ้ง? ================================= ผลิตภัณฑ์ของ NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. เหมาะสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น: - อุตสาหกรรมสีและเคมี: ดักจับไอระเหยจากตัวทำละลายและสารเคมี - อุตสาหกรรมอาหาร: กรองไอน้ำมันและกลิ่นจากกระบวนการผลิตอาหาร - อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์: ควบคุมฝุ่นในไลน์ผลิตที่ต้องการความสะอาดสูง - โรงงานทั่วไป: ใช้กรองอากาศจากเตาเผา หรือเครื่องจักรที่มีไอเสีย การเลือกใช้แผ่นกรองรังผึ้งจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยให้โรงงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อคู่ค้าและลูกค้า ================================= 4. ข้อดีของแผ่นกรองรังผึ้งเมื่อเทียบกับตัวกรองแบบอื่น ================================= แผ่นกรองรังผึ้ง - มีพื้นที่กรองมาก จึงดักจับฝุ่นได้ดี - แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน - อากาศไหลผ่านได้ดี ไม่อุดตันง่าย - ลดความถี่ในการเปลี่ยนไส้กรอง ตัวกรองทั่วไป - พื้นที่กรองน้อย ดักจับได้น้อยกว่า - ทนทานระดับปานกลาง - อาจอุดตันง่าย หากใช้งานต่อเนื่อง - ต้องเปลี่ยนบ่อย ทำให้มีค่าใช้จ่ายซ้ำ ================================= 5. ทำไมต้องเลือกแผ่นกรองอากาศรังผึ้งจาก NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD.? ================================= NISSEI INTERNATIONAL (THAILAND) CO., LTD. คือผู้นำด้านอุปกรณ์กรองและเทคโนโลยีจัดการคุณภาพอากาศในโรงงาน โดยมีจุดเด่นดังนี้: - ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนต่อการกัดกร่อนและอุณหภูมิสูง - มีให้เลือกหลายขนาดและสามารถสั่งทำพิเศษได้ตามต้องการ - ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและพลังงาน - ทีมงานมืออาชีพให้คำปรึกษาและดูแลหลังการขายครบวงจร หากคุณต้องการระบบกรองที่ไว้ใจได้ทั้งด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย แผ่นกรองรังผึ้งจาก NISSEI INTERNATIONAL คือคำตอบที่คุณมองหา 📌 สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถ ดาวน์โหลดเอกสาร PDF หรือ ติดต่อเราได้ทันที #แผ่นกรองอากาศรังผึ้ง #HoneycombFilter #ระบบกรองอากาศโรงงาน #ฟิลเตอร์โรงงาน #ระบบบำบัดอากาศ #กรองกลิ่นอุตสาหกรรม #กรองฝุ่นโรงงาน #NisseiThailand
วัสดุเสริมแรง GFRP|คืออะไร? ทำไมจึงนิยมในอุตสาหกรรมยานยนต์
GFRP คือวัสดุผสมระหว่างเส้นใยแก้วกับพลาสติก ซึ่งให้ความแข็งแรงสูงแต่น้ำหนักเบา เหมาะกับชิ้นส่วนที่ต้องการความทนทาน เช่น ในยานยนต์และเครื่องจักร บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงาน ข้อดี และเหตุผลที่วัสดุนี้เป็นที่นิยมในวงการอุตสาหกรรม ======================== 1. GFRP คืออะไร? GFRP ย่อมาจาก Glass Fiber Reinforced Plastic หรือวัสดุพลาสติกเสริมแรงด้วยเส้นใยแก้ว เป็นวัสดุ “คอมโพสิต” ที่ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก: - เมทริกซ์พลาสติก (มักใช้ PP หรือ PA) - เส้นใยแก้ว (Glass Fiber) ที่แทรกอยู่ภายใน เส้นใยแก้วทำหน้าที่เสริมแรง ส่วนพลาสติกเป็นตัวรองรับแรงกระแทก ทำให้วัสดุโดยรวมมีทั้ง ความแข็งแรงเชิงกล (mechanical strength) และ น้ำหนักเบา ======================== 2. จุดเด่นของ GFRP - น้ำหนักเบากว่าเหล็ก 40–70% แต่ยังคงความแข็งแรงในระดับใกล้เคียง - ทนความร้อนและสารเคมี ดีเยี่ยม เหมาะกับงานภายนอกหรือภายในเครื่องยนต์ - ลดแรงเฉื่อย (inertia) ของชิ้นส่วนที่หมุนหรือเคลื่อนที่ → ทำให้เครื่องจักรทำงานเร็วขึ้น - ขึ้นรูปง่าย ในการฉีดขึ้นรูปหรืออัดขึ้นรูป เหมาะกับสายการผลิตจำนวนมาก ======================== 3. ทำไมถึงนิยมในอุตสาหกรรมยานยนต์? GFRP ถูกนำมาใช้ในหลายจุดของรถยนต์ เช่น: - ฝาครอบเครื่องยนต์, ถังน้ำมัน, ชิ้นส่วนประตู - ชิ้นส่วนกันกระแทก, โครงสร้างเสริมความแข็งแรง - พื้นผิวที่ต้องการน้ำหนักเบา เช่น กันชนหรือฝากระโปรง ในยุคที่อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องการลดน้ำหนักรถเพื่อประหยัดพลังงานและลด CO₂ → GFRP คือคำตอบที่สมดุลระหว่าง “น้ำหนักเบา” กับ “ความแข็งแรง” ======================== 4. เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ GFRP หนึ่งในปัญหาหลักของ GFRP คือแรงยึดระหว่าง พลาสติกกับเส้นใยแก้ว บริษัท Nissei International (Thailand) Co., Ltd. ได้แนะนำการใช้สาร Kayabrid ซึ่งเป็น MAPP (Maleic Anhydride grafted Polypropylene) ที่ช่วยสร้างพันธะเคมีระหว่าง PP และใยแก้ว ทำให้ GFRP มีแรงยึดสูงขึ้นถึง 3 เท่า และทนแรงกระแทกดีขึ้น ======================== 5. ข้อควรรู้ก่อนเลือกใช้ GFRP - ควรเลือกสูตรพลาสติกที่เหมาะกับกระบวนการ (ฉีดขึ้นรูป, อัดขึ้นรูป ฯลฯ) - การเติมเส้นใยมากเกินไปอาจทำให้ชิ้นส่วนเปราะ - หากต้องการแรงยึดสูง ต้องใช้สาร Coupling หรือ MAPP เสริม เช่น Kayabrid ======================== 6. สรุป GFRP คือวัสดุยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ “แข็งแรงแต่เบา” ได้อย่างลงตัว เหมาะกับงานที่ต้องการความแข็งแรง น้ำหนักเบา และความทนทานในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และอุตสาหกรรมทั่วไป #GFRPคืออะไร #วัสดุเสริมแรง #วัสดุคอมโพสิต #วัสดุยานยนต์ #PPใยแก้ว #Compositeเบื้องต้น #น้ำหนักเบาแข็งแรง #เทคโนโลยีวัสดุ #อุตสาหกรรมไทย #NisseiThailand
CONTACT
ติดต่อสอบถาม